Cape Otway Lighthouse อยู่ห่างจาก Otway Tree Top Walk แค่ประมาณ 30 นาที แต่ตอนที่ไปหลงทางเลยใช้เวลานานกว่านั้นจะไปถึง ก่อนเข้าไปถึงประภาคารต้องขับรถลัดเลาะไปในอุทยานแห่งชาติ Otway ระหว่างทางได้เห็นโคอาล่าเกาะบนต้นไม้เต็มไปหมด พอไปถึง…ประภาคารก็ใกล้จะปิดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังใจดีให้เราได้เข้าไปชมกัน

Cape Otway Lighthouse เป็นประภาคารที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในออสเตรเลีย เริ่มทำการมาตั้งแต่ปี 1848 มีหน้าที่จุดไฟให้สัญญาณแก่เรือ ในอดีตบริเวณชายฝั่งบริเวณนี้เป็นบริเวณที่เรืออับปางมากที่สุดเมื่อเทียบกับชายฝั่งด้านอื่นของประเทศ เนื่องจากสภาพทะเลที่แปรปรวนตลอดเวลาและชายฝั่งที่เป็นแนวหินโสโครก นอกจากนี้ประภาคารยังมีส่วนสำคัญในการช่วยป้องกันแนวชายฝั่งของออสเตรเลียในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองอีกด้วย

จากห้องปฏิบัติการเราสามารถเดินออกไปที่ระเบียงได้ ระเบียงมีลักษณะแคบๆ เป็นวงกลม 360 องศาล้อมรอบห้องปฏิบัติการ ด้านหนึ่งจะมองเห็นแผ่นดิน ส่วนอีกด้านมองลงมาจะเห็นทะเลและหน้าผาหิน บนนี้ลมแรงมากๆ เหมือนกับว่าจะพัดให้ปลิวตกลงไปเมื่อไหร่ก็ได้

นอกจากตัวประภาคารแล้ว บริเวณรอบๆยังมีสิ่งที่น่าสนใจเช่น บ้านพักของ Light Keeper และครอบครัวในสมัยก่อน, สถานีโทรเลข (Telegraph Station) ซึ่งเป็นสถานีแห่งแรกที่เชื่อมสัญญาณระหว่าง Mainland ของออสเตรเลียกับเกาะแทสมาเนีย (Tasmania Island) นอกจากนี้ยังมี Radar Station ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นพันธมิตรกับออสเตรเลียได้สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองด้วย

นอกจากได้ขึ้นไปชมประภาคารและบรรยากาศทะเลที่แสนสวยแล้ว ความประทับใจในการมาครั้งนี้คือ ได้เห็นถึงความเสียสละของคนเฝ้าประภาคารและครอบครัวในสมัยก่อนที่ต้องมาอยู่ในที่ห่างไกลเพื่อให้สัญญาณแก่เรือและช่วยชีวิตคน น่าเสียดายที่ไปถึงช้าไปหน่อยจึงมีเวลาเที่ยวจำกัด ไม่งั้นคงได้ถ่ายภาพมามากกว่านี้

วันนี้จะพาไปเที่ยวป่า Rainforest ที่ Melbourne กัน ครั้งนี้ไม่ใช่การเดินป่าบนพื้นดินตามปกตินะคะ แต่เป็นเดินบนยอดไม้ที่ ‘Otway Fly Tree Top Walk’ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของ Melbourne บริเวณ 'Great Ocean Road' ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่งของรัฐวิคตอเรีย

การเดินทางโดยรถยนต์สามารถไปได้สองเส้นทาง เส้นทางแรกคือ Princess Hwy (Inland road) ซึ่งเป็นถนนที่ไม่ติดทะเล ใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมง อีกเส้นทางคือ Great Ocean Road (ถนนเลียบชายฝั่งทะเล) ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง ตอนขาไปเราเลือกใช้เส้นทาง Inland road เนื่องจากเราอยากไปถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุดจะได้มีเวลาเดินเที่ยวนานๆ 

 

เมื่อเดินทางมาถึง ต้องเดินเท้าไปอีกนิดนึงจึงจะถึงทางเข้าOtway  ทางเดินล้อมรอบไปด้วยทุ่งดอกเดซี่สีเหลืองสวยงาม เมื่อถึงทางเข้าจะเจอ "Otway Café"  ซึ่งเราได้แวะดื่มกาแฟและทานอาหารเนื่องจากจะต้องใช้พลังงานในการเดินชมป่าอีกเป็นชั่วโมง พอทานเสร็จก็ไปซื้อบัตรและรับแผนที่จากเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะเข้าไปข้างใน Otway Rainforest

 

เมื่อเข้าไปแล้ว เรายังไม่เจอ Tree Top Walk ตามที่คาดหวังไว้ทันที ต้องเดินชมป่าภาคพื้นดินไปก่อน ระหว่างการเดินเราได้เห็นพันธุ์ไม้นานาชนิดตั้งแต่พืชเตี้ยๆที่ปกคลุมพื้นป่าจำพวกเฟิร์น (Fern)  มอส (Mosses) และกล้วยไม้ ไปจนถึงต้นไม้ขนาดใหญ่และสูงมากจนไม่อาจมองเห็นยอดได้เช่น Mountain Ash,  Blackwood และ Myrtle Beech บรรยากาศในการเดินจะเป็นแบบครึ้มๆ เย็นๆ ชื้นๆ ได้กลิ่นดินและกลิ่นของต้นไม้ตลอดทาง เราเดินตามทางไปเรื่อยๆอีกพักใหญ่จนกระทั่งเจอป้าย "Tree Top Walk Entrace"  

 

เมื่อผ่าน Tree Top Walk Entrace เข้ามา การผจญภัยบนยอดไม้ก็เริ่มขึ้น....Tree Top Walk มีลักษณะเป็นตระแกรงเหล็กยาวๆ สูงจากพื้นดินถึง 47 เมตร ความกว้างประมาณพอให้คนสองคนเดินสวนกันได้ ทางเดินจะมีระดับความลาดชันตั้งแต่น้อย-ปานกลาง-ไปจนถึงชันมาก เมื่อเดินไปสักพักจะเจอบันไดวน (Spiral Tower) สูงขึ้นไปอีก  45 เมตร ข้างบนจะมีหอคอยสำหรับชมวิว สำหรับคนที่ไม่กลัวความสูงคงไม่มีปัญหาอะไร สำหรับคนที่กลัวความสูงแต่อยากขึ้นไปก็ขอแนะนำว่าตอนขึ้นอาจจะไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ตอนลงเนี่ยน่ากลัวมาก แบบว่าขาสั่นเลย ลงมาแทบทรุด แต่ก็ให้ความรู้สึกตื่นเต้นดี นอกจาก Spiral Tower แล้ว ยังมีส่วนทางเดินที่มีลักษณะเป็นสปริงบอร์ด (Springboard) เด้งไปมาได้ สำหรับให้ผู้ที่ชอบความท้าทายเข้าไปยืนถ่ายภาพด้วย

เวลาเดินชม Otway Rainforest จาก Tree Top Walk จะมีความรู้สึกโปร่ง โล่งและสดชื่นมาก ลมเย็นๆ ล้อมรอบด้วยยอดไม้สีเขียว เหมือนเราบินอยู่บนท้องฟ้า มองเห็นยอดของต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งเราไม่สามารถเห็นได้ตอนที่อยู่ข้างล่าง ถ้าโชคดีจะได้เห็นนกสีสวยๆชนิดแปลกๆเช่น Eastern Yellow Robin, Crimson Rosella และ Australian cockatoos ซึ่งเป็นนกท้องถิ่นของออสเตรเลียอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

ไม่น่าเชื่อว่าในสถานที่เดียวกัน เพียงแค่เรามองจากคนละมุมก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ที่ให้ความรู้สึกต่างกันมาก  เวลาอยู่บน Tree Top Walk จะได้เห็นทิวทัศน์ที่กว้างไกล แต่จะไม่เห็นพืชเล็กชนิดที่เราได้เจอตอนเดินบนพื้นดิน ทั้งภาคพื้นดินและบน Tree Top Walk ต่างก็เป็นองค์ประกอบของกันและกันทำให้ประสบการณ์ในการมาเที่ยว Otway Rainforest ครั้งนี้สมบูรณ์

 

ลงมาจาก Tree Top Walk ขากลับเราต้องเดินชมป่าภาคพื้นดินอีกครั้งเช่นเดียวกับขาเข้า (เป็นคนละทางกัน)  แต่สิ่งที่พิเศษคือเราได้เดินเข้าไปใน 'Prehistoric Path' บรรยากาศเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ๆและพืชแปลกๆที่ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ แต่คราวนี้ต้องระมัดให้ดีเพราะนอกจากพืชดึกดำบรรพ์แล้วอาจมีไดโนเสาร์โผล่หน้ามาทักทายแบบไม่รู้ตัวอีกด้วย

สำหรับการเดินชม Otway Rainforest ครั้งนี้ระยะทางรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.9 กิโลเมตร (รวมส่วนทางเดินภาคพื้นดินและ Tree Top Walk)  ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 45 นาที- 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ ตามแต่อัธยาศัยในการชมและสภาพร่างกาย เมื่อเข้าไปข้างในป่าอากาศจะเย็นมาก ควรเตรียมเสื้อผ้าอุ่นๆและใส่รองเท้าพื้นเรียบ รวมทั้งไม่ควรพกของติดตัวไปมาก เพราะถ้าหล่นลงไปก็คงไม่สามารถติดตามเอาคืนได้ค่ะ

ใครชอบกินสตอเบอรี่และชอบบรรยากาศธรรมชาติ ถ้ามาเที่ยว Melbourne อย่าลืมแวะไปเก็บสตอเบอรี่ที่ Sunny Ridge Strawberry Farm กันนะคะ

พอพ้นจากทางขึ้นภูเขามาได้ก็จะเป็นทางราบ คราวนี้ขับรถสบายไม่ตื่นเต้นแล้ว ซักพักจะเจอจุดชมวิวขนาดใหญ่ มีกล้องส่องทางไกล มีร้านอาหาร ที่พักและที่ปิกนิค เราจอดรถชมวิวและพักแป็บนึงแล้วก็เดินทางไปยังจุดหมายต่อ คราวนี้ถนนเล็กลง ข้างทางจะเป็นฟาร์มผลไม้และฟาร์มปศุสัตว์ ได้เห็นวัว ม้า แพะ แกะ ระยะกระชั้นชิดมาก ในฟาร์มมีกองฟางม้วนกลมๆเหมือนแยมโรลขนาดยักษ์เต็มไปหมด ขับไปซักพักต้องสังเกตป้ายดีๆ ถ้าเห็นป้าย “Sunny Ridge” แล้วล่ะก็…เลี้ยวรถเข้าไปจอดได้เลย

 เก็บสตอเบอรี่จนพอใจแล้ว ออกจากฟาร์มมาก็เจอ Cafe' มีทั้งกาแฟ ไอศครีมและขนมหวานแบบโฮมเมดไว้บริการ เมนูหนึ่งที่พลาดไม่ได้ คือ Strawberry Fondue สตอเบอรี่ลูกใหญ่ สด กรอบ หวานฉ่ำจิ้มกับช็อคแล็ตฟัดจ์อุ่นๆ อร่อยมาก เผลอแป็บเดียวกินหมดไม่รู้ตัว ถ้ากินแล้วยังไม่จุใจก็สามารถซื้อผลิตภัณฑ์จากฟาร์มไม่ว่าจะเป็น  สตอเบอรี่อบแห้ง ไวน์ น้ำผึ้ง แยม หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆไปกินต่อที่บ้านหรือเป็นของฝากก็ได้ตามใจชอบ

หลังจากกลับมาจาก Trip เก็บสตอเบอรี่ เราก็บ้าคลั่งสตอเบอรี่มาก เที่ยวหาซื้อสตอเบอรี่จากตลาด     ผลไม้หรือซุปเปอร์มาเก็ตมากิน แต่ยังไง๊ยังไงก็ไม่เหมือนไปกินสดๆที่ฟาร์ม ถ้าใครจะมาเที่ยวที่นี่ก็ต้องดูช่วงเวลาเดินทางดีๆด้วยนะคะ เพราะฤดูกาลสำหรับการเก็บสตอเบอรี่จะมีเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายนซึ่งเป็นฤดูร้อนของออสเตรเลียเท่านั้น ส่วนการเดินทางไปนั้นเนื่องจากฟาร์มอยู่บนภูเขาจึงไม่มีรถไฟหรือรถบัสสาธารณะผ่าน การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือรถยนต์หรือไปกับ Day Tour ค่ะ